ในกระบวนการปลูกผักสวนครัวทั้งหลาย เวลาปลูกไปนาน ๆ จะมีปัญหาโรคแมลง วิธีจัดการทั้งหลายแต่ละแบบ
ที่แนะนำในคลิปวีดีโอต่าง ๆ นำมาปฎิบัติจริง บางที่ก็ยุ่งยาก เสียเวลา+บางทีก้ลงทุนมหาศาล
เซียงดากับฟักข้าว ขึ้นง่าย ตายยาก โดยเฉพาะฟักข้าว…..กอฟักข้าวตัวแม่ ไม่แพ้ต้นวาสนา
ผลที่สุกร่วงใต้ต้น ทำให้มีต้นอ่อน ขึ้นเต็มไปหมด
ยอดที่ใกล้ ๆ มือ เก็บใด้ไม่เป็นกอบเป็นกำ อาศัย ต้นอ่อนงอก เวลาเก็บ แรก ๆ เลยถอนทั้งต้น ด้วยกลัวว่ามันจะไปรุกรานพืชอื่น
แล้วเด็ดเฉพาะยอดอ่อนที่สามารถเด็ดใด้กับใบ ช่วงรากจะเหนียวมาก พัฒนาการต่อมา ตัดเฉพาะยอดที่ใช้ใด้เลย สามารถล้างลงหม้อ กะทะ ใด้…เหลือให้เป็นตอรอเก็บ ครั้งถัดไป จนเรารู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว ค่อยถอนกลบทำปุ๋ย
ผลฟักข้าว ปัญหาเรื่องหนอนในผลสุก เข้าใจว่า ขึ้นกับลักษณะระบบนิเวศน์ที่ปลูก ถ้าเป็นพื้นซีเมน ประมาณว่าปลูกในเมือง
ปัญหาน่าจะไม่มี ถ้ามี ก็ห่อตอนลูกยังเขียว ๆ มีคนแนะนำบอกให้ใช้กระเพราใล่ แต่รายละเอียดจะยังไง ไม่กล้าตามต่อ ผู้รู้อีกท่านเสริมต่อว่าต่อว่าต้องเป็นกระเพราแดงด้วย…..จบเลย ลำพังปลูกกระเพราแดงรอดอยู่รุ่นแรกรุ่นเดียว ต่อจากนั้น เห็นแต่กระเพราขาวขึ้นเต็มไปหมด
กรณีฟักข้าวปลูกในสวน ในที่ ๆ มีกองใบไม้ใบหญ้าตามพื้นตามโคนต้น ค่อนข้างชัวร์เรื่องหนอน แต่ถ้าไม่มี โชคดีสุด ๆ
ผลสุกฟักข้าวกระบวนการเอามาทาน ยุ่งยาก นึกภาพแล้ว ลมบะค่อยจอยเอาเสียเลย
เอายอดอ่อน กับผลดิบ มาทานดีกว่า ผลดิบรสชาดใช้ใด้เลย ส่วนยอดก็ผสมผสานกันทั้งยอดจริงกับยอดต้นอ่อน
เซียงดา ว่าไม่เห็นมีโรคอะไร หลัง ๆ มามีใบหงิก กับหนอน มาห่อยอด จัดการแต่เนิ่น ๆ ขยันเด็ดยอดแข่งกับหนอน ก็หมดปัญหาไป ส่วนตำลึง ต้องบอกว่า จากที่ลองทานยอดจากต้นปรกติ ในเวบ บอกมีใบตัวผู้ตัวเมีย ต้องเก็บหลังฝน อะไรประมาณนี้ ถ้าไม่ก็จะเป็นยาระบาย…..แต่ทางปฎิบัติก็เช่นกัน เว้นตามนั้นแล้ว ก็ยังเป็นยาระบายอยู่ดี หันมาทานจากยอดต้นอ่อน ผสมกับผักอื่น เข้าท่านะ ตำลึงปล่อยใว้นานก็มีปัญหาเรื่องราใต้ใบ เพราะฉะนั้น เก็บทานแนวเดียวกับฟักข้าวดังที่กล่าวมาแล้ว ดีที่สุด
สำหรับฟักทอง ต้นอ่อนนึกว่าจะฟีลลิ่งเดียวกับต้นอ่อนทานตะวัน….ไม่เลย แต่ถ้ามีเยอะ ๆ ก็ผสมผสานผนึกกำลังผัด-แกงผักรวมในหม้อเดียวกันไม่น่าเกลียด ส่วนดอก ตัวผู้เยอะไปก็เก็บ เหลือให้ดอกตัวเมีย ที่น้อยมาก ๆ บาน วันไหนไม่รู้ ใด้ผสมเกสรด้วย